เลขาฯ สมช. เผยชง ศบค.พรุ่งนี้ ปรับมาตรการ Test and Go เข้าประเทศเหลือ ATK หรือยกเลิก ATK ไปเลย ลดวันกักตัวกลุ่มเสี่ยงสูง-ไม่ฉีดวัคซีน เริ่ม 1 พ.ค. Thailand pass ยังเหนียว

       วันที่ 21 เมษายน 2565 ทีทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (ศปก.ศบค.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ศปก.ศบค. ถึงเรื่องการพิจารณาที่จะเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ศบค. ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค.เป็นประธานในวันที่ 22 เมษายน 2565

       ว่าเป็นเสนอเรื่องสืบเนื่องจากการประชุม ศบค.เมื่อครั้งที่ผ่านมา ประกอบการประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ช่วงหลังจากเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะเรื่องของการเดินทางเข้าประเทศ ซึ่งจะมีการปรับตามสถานการณ์

       พล.อ.สุพจน์กล่าวว่า ปัจจุบันการเดินทางเข้าประเทศประกอบด้วย 2 ประเภทหลัก ได้แก่ ระบบการกักตัวผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน และระบบ Test and Go (ผู้ได้รับวัคซีน) ซึ่งขณะนี้ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกมีการผ่อนคลายมาตรการ

       “มาตรการที่จะเสนอที่ประชุม ศบค.พรุ่งนี้ (22 เม.ย. 65) จะปรับ Test and Go ให้มีความสะดวกมากขึ้น ขณะที่คนที่ไม่ได้รับวัคซีนจะมีมาตรการกักตัวให้มีความสะดวกแต่รัดกุมมากขึ้น ซึ่งจะมีการพิจารณาถึงการกักตัว หากมีมาตรการการตรวจที่รัดกุมและเชื่อถือได้ การกักตัวจะลดลง”

       พล.อ.สุพจน์กล่าวว่า สำหรับการปรับระบบ Test and Go ที่จะเสนอ ศบค.มีหลายแนวทาง ซึ่งจากการประเมินผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศมีจำนวนเปอร์เซ็นต์ที่น้อยมาก อาจจะมีการปรับมาตรการเข้าประเทศ โดยยกเลิกการตรวจ RT-PCR ให้เหลือแต่การตรวจ ATK หรือไม่ตรวจ ATK เลย หากที่ประชุม ศบค.ในวันพรุ่งนี้อนุมัติจะสามารถเริ่มได้ในวันที่ 1 พ.ค. 65 ได้ทันที ยกเว้นมีเหตุจำเป็น

       “การประเมินให้ไม่ต้องตรวจ ATK เลยเมื่อเดินทางเข้าประเทศ เราประเมินจากตัวเลข สถิติที่ผ่านมาเราพบว่า การตรวจเชื้อของผู้เดินทางเข้าประเทศมีจำนวนน้อยมาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มีหลายปัจจัย ปัจจัยความต้องการที่เราจะให้ผู้เดินทางเข้าประเทศมีความสะดวก ทั้งคนไทยที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ หรือคนไทยที่เดินทางไปต่างประเทศและกลับเข้าประเทศ นักท่องเที่ยวที่เป็นกลุ่มเศรษฐกิจหลักของประเทศไทย ถือว่ามีความสำคัญมาก ๆ อาจจะต้องพิจารณาในทุกมิติ”

       ผู้สื่อข่าวถามว่าภาคเอกชนขอให้ยกเลิก Thailand pass และ Test and Go โอกาสเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน พล.อ.สุพจน์กล่าวว่า ศบค.รับฟังมาตลอด ซึ่งเรื่อง Thailand pass เป็นประเด็นที่เราคิดมาตลอดตั้งแต่เริ่มต้น อย่างไรก็ตามอยากให้ภาคเอกชนเข้าใจว่า Thailand pass ไม่ใช่ระบบที่ไม่ดี หากย้อนกลับไป 1 ปีที่ผ่านมา ถ้าเราไม่มี Thailand pass เราก็ยังไม่ทราบสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยจะเป็นอย่างไร แต่เมื่อสถานการณ์ในปัจจุบันเปลี่ยนไประบบการต้องปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์

       “แน่นอนครับ ในการปรับครั้งนี้ ถ้าเรามีการปรับระบบการเข้าประเทศ เราก็จะใช้ Thailand pass เท่าที่จำเป็นจริง ๆ ท่านนายกฯ บอกว่า ปลอดภัยเท่าที่เราประเมินว่า เรารับได้ และสะดวกที่สุด”

ผ่อนคลายมาตรการ-ปรับโซนสี
พล.อ.สุพจน์กล่าวว่า สำหรับการปรับโซนสีจังหวัด ศปก.ศบค.ประเมินตามเงื่อนไข ซึ่งจากการดูตัวเลขสถิติการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา คาดว่าการประชุม ศปก.ศบค.ในวันนี้จะมีการปรับโซนสีดีขึ้นทุกจังหวัด ขณะเดียวกันการพิจารณามาตรการป้องกันในปัจจุบันมีการปรับตัวอยู่กับโควิด-19 ได้ดีขึ้น จึงมีแนวโน้มที่หลายจังหวัดจะปรับจากพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) เป็นพื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) หรือพื้นที่เฝ้าระวัง (สีเขียว)

ยังห้ามถอดหน้ากากอนามัย
“การนำไปสู่ชีวิตปกติ หรือโรคประจำถิ่น กระทรวงสาธารณสุขได้วางมาตรการเพื่อประเมินสถานการณ์ไว้แล้ว ซึ่งสามารถปรับได้อีก แต่โควิด-19 ยังจะต้องอยู่กับเราไปอีกเป็นปี เราจะใช้ชีวิตปกติแล้วประชาชนติดเชื้อ หรือเป็นโควิด-19 ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด สามารถประกอบอาชีพได้ มาตรการที่ยังมีอยู่และต้องทำ เช่น การรักษาระยะห่างยังจำเป็น การปรับตัวในการใช้ชีวิตประจำวัน ยังต้องอยู่กับโควิดแบบป้องกันตัวเอง เพราะฉะนั้น ผมยังยืนยันว่า หน้ากากอนามัยเป็นอาวุธสำคัญในการป้องกันตัวเอง” พล.อ.สุพจน์กล่าว

Cr. prachachat

TAGS : โควิด19 , RT-PCR , ข่าว , เข้าประเทศ , ATK , เดินทางเข้าประเทศ , โรคประจำถิ่น , กระทรวงสาธารณสุข